กรมชลฯ มั่นใจรับมือสถานการณ์น้ำปี 68 เตรียมพร่องน้ำรับฝน เน้นบริหารจัดการเชิงรุก : อินโฟเควสท์

กรมชลประทาน เปิดเผยภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/68 ที่ผ่านมา สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะด้านการเกษตร มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศกว่า 10 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 9 แสนไร่ โดยไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ
กรมชลประทาน ยังบูรณาการการบริหารจัดการรองรับน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำ 10 ทุ่ง ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา และทุ่งบางระกำ ให้สามารถเริ่มเพาะปลูกได้ตรงตามแผน และในปีนี้พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ ยังสามารถขยายพื้นที่เพาะปลูกได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 60,000 ไร่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้เกษตรกร สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนถึงฤดูน้ำหลาก และไม่ทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหาย
พร้อมทั้งเดินหน้ารับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเต็มศักยภาพ โดยได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำในระยะต่อไปอย่างรอบด้าน ทั้งการติดตามสภาพอากาศ การเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง จัดเตรียมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ และการตรวจสอบอาคารชลประทาน เพื่อบรรเทาลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด
สำหรับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน ประเทศไทยมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งสิ้น 43,220 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 57% ของความจุรวม ยังสามารถรับน้ำได้อีก 43% หรือ 33,270 ล้านลูกบาศก์เมตร และบริหารจัดการน้ำโดยใช้มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เห็นชอบ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 68 สำหรับเป็นมาตรฐานในการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนทั่วประเทศ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำให้มากที่สุด ตลอดจนการระบายน้ำและการจัดสรรน้ำจากอ่างเก็บน้ำอย่างสมดุล
ปริมาณฝนปีนี้มากกว่าค่าเฉลี่ย
สำหรับสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศปีนี้ นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา คาดการณ์ปีนี้ปริมาณฝนมากกว่าค่าเฉลี่ย แต่ขึ้นอยู่กับว่าฝนตกตรงไหน ถ้าตกบริเวณเหนือเขื่อนใหญ่ ก็มั่นใจว่าได้เตรียมพร่องน้ำไว้รอรองรับแล้ว ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ก็ต้องมีการเฝ้าระวังและค่อย ๆ พร่องน้ำออก
นายธเนศร์ กล่าวว่า ปีนี้ฝนมาไว มาตั้งแต่เดือนพ.ค. 68 ซึ่งอิทธิพลของฝนไม่ได้เกิดจากพายุ แต่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ดังนั้น ภาคเหนือตอนบน และภาคอีสานบริเวณริมแม่น้ำโขง จึงเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก ส่วนภาคกลางต้องเฝ้าระวังลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงปลายเดือนมิ.ย. ถึงต้นก.ค. ขณะที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ก็ต้องเฝ้าระวังลมจากทะเลอันดามันในช่วงต้นฤดูฝน
“ปีนี้ฝนมาไว ฝนมากกว่าปีก่อน ปีก่อนฝนตกเยอะจริง แต่ไม่ได้เยอะทั้งประเทศ ตกแต่บริเวณภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าในปีนี้ฝนน่าจะมีอัตราการกระจายตัวมากกว่าปีที่แล้ว โดยช่วงประมาณเดือนก.ค. เป็นฤดูกาลที่จะต้องเพิ่มการระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยาอีกรอบ ซึ่งปกติจะระบายทุกก.ค. แต่ปีนี้ระบายพ.ค. ไปแล้วรอบหนึ่งเพราะฝนมาเร็ว ส่วนในช่วงเดือนส.ค. ต้องเฝ้าระวังแม่น้ำยม เดือนก.ย. เฝ้าระวังภาคเหนือตอนล่าง และในเดือนต.ค. เป็นจุดพีคของภาคกลางที่ต้องเฝ้าระวัง ส่วนภาคอีสาน ต้องเฝ้าระวังแถว ๆ จังหวัดอุบลราชธานี ขณะเดียวกัน คาดว่าปีนี้จะต้องบริหารน้ำยมมากกว่าปีก่อนด้วย”นายธเนศร์ กล่าว
สำหรับกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวที่เมียนมา และส่งผลกระทบต่อไทยเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อเขื่อน อย่างไรก็ดี สิ่งที่กังวลมากกว่าคือเรื่องการซึมของเขื่อน เพราะไทยมีเขื่อนเก่าหลายแห่ง หรือมากกว่าครึ่งจากทั้งหมด 400 แห่ง ที่มีอายุ 20-30 ปี ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องทำการตรวจสอบพฤติกรรมของเขื่อนต่อไปว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ โดยได้ให้นโยบายสำนักชลประทานต่าง ๆ 17 แห่งไปตรวจสอบเขื่อนทั้งหมด ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าปลอดภัยดี
กรมชลประทาน เดินหน้านโยบาย “RID UNITED”
นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ควบคู่ไปกับการป้องกันความเสียหายจากน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ โดยยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าปฏิบัติงานภายใต้การบริหารงานตามนโยบาย “RID UNITED” ภายใต้แนวคิด “ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน”
โดยมีจุดมุ่งหมายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) และมุ่งสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะภายในปี 2580 เน้นการทำงานร่วมกันอย่างมีมาตรฐาน บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ พร้อมทั้งยกระดับการทำงานในองค์กรให้ทันสมัย สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศปัจจุบัน พร้อมเดินหน้าพัฒนาการทำงานอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อมุ่งสู่การบริหารจัดการน้ำที่มั่นคงและยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 68)
Tags: กรมชลประทาน, ปริมาณฝน, ฤดูฝน, สถานการณ์น้ำ本文地址:http://7.vxpvqm.cn/news/66a3099903.html
版权声明
本文仅代表作者观点,不代表本站立场。
本文系作者授权发表,未经许可,不得转载。